หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐

ค่ายลูกเสือม.3 2550

สวัสดีครับกระผมเด็กชาย มัชฌิมา จันทร์กล้า
ลูกเสือ กอง 1 หมู่ 2 รุ่น 13 ขยายเมือง
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
เดินทางไปเข้าค่ายที่ค่ายมหาเจษฎาราษฎร์เจ้า
กองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์
กรมทหารทหารราบที่ 1 กองพลนาวิโยธิน
วันที่ 7-9 ธันวาคม 2550 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

หลายท่านอาจจะคิดว่าค่ายทหารจะโหด
ไม่จริงครับ! ไม่ได้โหดอย่างที่คิด
แต่โหดกว่าที่คิดต่างหาก แฮ่....(ขู่รุ่นน้องนิดๆ)
ไม่หรอกครับไม่ได้โหดเลย จริงๆนะ

โอ้ ครูนัด 7 โมง ให้ไปให้พร้อมก่อน
แล้วรถจะออก 8 โมง โอ้ว สบายๆ
แต่เมื่อเอาเข้าจริงไปรอตั้งแต่ 7 โมง
8โมงครึ่งล้อถึงจะหมุน เอา
ไม่เป็นไร มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะ
และการเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยการ....นอน
บนรถตื่นมาอีกทีก็พบกับกลิ่นอันฟุ้งกระจาย
ไม่ใช่สิ กระจุยมากกว่า

โอ้ ผมนั่งหลังรถ มีคนอั้นฉี่ไม่ไหว
เลยปลดปล่อยใส่ขวด.....สุดยอด
ไม่ได้ชมว่าเขากล้านะครับ
หมายถึงกลิ่นนะครับสุดยอดเลย
แล้วขวดเก็บไว้ไหนล่ะเนี้ย

เอ๋...จะว่าไปสีน้ำในขวดน้ำที่ผมดื่มมันแปลกๆนะ
ใครเอาไปเปลี่ยนรึเปล่าเนี้ย บรึ๋ย~ เหลืองๆ
มิรินด้ารสใหม่ เค็มๆ

หลังจากเดินทางไปเรื่อยๆ
เสียงลำโพงมันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
ดูเหมือนปริมาณคนอุดหูก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เรื่องนี้ได้ถูกลืมไปเนื่องจากอยู่ดีๆ
รถได้จอดพักนานเสียด้วย
ถึงแล้วหรือนี่ เอ๋..หรือนี่จะเป็นโรงนอนของเรา
ปูเสื่อใต้ต้นไม้นอนข้างถนนกันเลยหรอ
แต่แล้วเหตุผลก็เริ่มกระจ่างเมื่อได้มีคนมาบอกว่า
มีรถเลยไปพัทยา พวกเราจึงต้องรอรถคันนั้นกลับมา

นี้ดีนะที่เลยไปพัทยา ถ้าเลยไปอีกหน่อยคงจะตกอ่าวไทยไปแล้ว
และแล้วเราก็มาถึง เกือบบ่าย....
อาหารกลางวันที่เรารอคอยมานาน
แต่กว่าจะได้กินก็ต้องทำ

ขัดหลัง!
(คือการเอาแล้วทั้ง 2 ข้างไขว้หลัง มือขวาอยู่บนมือซ้ายกำมือหลวม)

ฟัง!
(คือคำสั่งที่ใช้สั่งในการตบฉาก ขยายข้อความนี้อีกที
ว่าคือการเอามือขวาทับมือซ้าย
ยกขึ้นตั้งฉากกับตัว อยู่ในแนวระดับไหล่
แล้วยกมือขวาขึ้นตบมือซ้ายเมื่อสั่ง)

ฟัง! ฟัง! ฟัง! กล่าวคำปฎิญาณ

เชิญรับประทาน
ขอบคุณครับครูฝึก ฟัง! เสียงดังมาก
ขอให้เบากว่านี้ ฟัง!
เชิญ รับประทาน....กว่าจะกินเสร็จ

จากนั้นก็เป็นพิธีมอบอำนาจ
การบัญชาการจาก ร.ร.สู่ทหาร
ขนาดยังไม่ได้รับมอบยังขนาดนี้
เกิดรับมอบไปแล้วจะขนาดไหน

แล้วกฏการอยู่ร่วมกันก็ถูกประกาศออกมา 2 ข้อ
สั้นๆ ง่ายๆ 1.ให้เข้าฟังคำสั่งของครูฝึก
2.ถ้ามีอะไรสงสัยให้กลับไปดู ข้อที่ 1

ภายใต้กฎนี้การเข้าค่ายก็ได้เริ่มขึ้นอย่างแท้จริง
มีการแบ่งกลุ่มทั้งลูกเสือและเนตรนารีเป็น 4 กลุ่ม
(เฮ้ออุตส่าห์หวังเล็กว่ารวม ลืมเอากล้องส่องทางไกลมา)

ผมอยู่ กองร้อยที่ 1 เดินมาถึงหน้าหอพัก
ก็เริ่มที่การให้นักเรียนทุกคนส่งมอบของที่(บังคับ)
ให้ฝากไว้ คือ มือถือ ของมีค่า อาวุธ ขนม และสิ่งเสพติด
ที่แรกก็เริ่มเก็บดีๆ เมื่อเวลาผ่านไป

“มันต้องมีบุหรี่สิอยู่ไหนเอาบุหรี่ออกมา”

เสียงครูฝึกดังระงม และเริ่มทำการคือ หาคนที่ดวงซวย
เปิดกระเป๋าแล้วปล่อยของลงมาเลย...ฝุ่นเต็มพื้นขนาดนั้น
....ทำกันอย่างนี้เลยหรือ? และความบ้าของครูฝึกก็ไม่หยุดอยู่แค่นั้น

เขายังบอกว่าเอาบุหรี่ออกมาไม่ยอมหยุด
ทั้งที่คนอื่นเงียบแล้ว ผมเลยบอกกับเพื่อนว่า
“ไปซื้อบุหรี่มาให้แกหน่อยสงสัยแกอยาก”
และสุดท้ายแกก็ยอมให้เราได้ขึ้นไปหอพัก
พอวางของแล้วก็ลงมาฝึกทันที

เริ่มจากวิธีการจัดแถวต่างๆ การสั่งหันซ้ายขวา
กลับหลังหัน เมื่อสั่งให้นั่งให้บอกว่า
อึ๊บ!
ขอบคุณครับ และเมื่อสั่งให้ยืนก็ให้บอกว่า
อึ๊บ!...
จากนั้นก็สอนซอย โอ้ อึ๊บ!แล้วซอยกันทั้งวัน
ซอยเท้านะครับ คิดไรกันอยู่เนี่ย เฮ้อ
ซอย!ๆ อึ๊บ!ๆ กันจนหมดแรงเลยทีเดียว

ทำให้เราได้รู้จักชายผู้หนึ่ง
ผู้ที่สอนให้เราเรียนรู้คำใหม่ๆ เช่น
ไอ้หน้ามืด ไอ้เวล(เวน หรือ well)
เรียนรู้วิธีสวมหมวกแบบต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นแบบกุ๊ยเยาวราช กุ๊ยข้างถนน
เปิดหมวกรับคอมแบต กองขี้ควาย
สอนวิธียิง m16 ทั้ง 2 แบบ คือแบบ 30 นัด 1 แม็ค
และแบบ 3 นัดแต่ 10 แม็ค
(คือการเอาหมวกกันน็อกตีหัวนั่นเอา)
และบทลงโทษที่หนักที่สุด คือ
ไข่เย็น....(คือการเอาน้ำแข็งใส่ไปใน....นั้น โอ้ว เย็นโอ้ว
กว่าจะละลาย ไม่ๆ แข็งแล้ว หดแล้ว...น้องพี่)

เขาคือ “ไอ้โหดเปิดหีบ”
ฉายาทีได้จากการฝึกให้เด็กโรงเรียนอื่นในอดีต
เป็นคนดีมากแต่กลับเป็น
โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
เพราะเขาฝึกหนักกับเสื้อเกราะและปืนที่หนักเกินไป
รักษาตัวดีๆนะครับพี่ เป็นกำลังใจให้ครับ
จะได้มาใส่ไข่เย็นใหม่ ฮา~

*อึ๊บ(เป็นอีกคำหนึ่งที่ใช้สั่งเวลาให้ลุกนั่งด้วย)


และแล้วก็ถึงเวลาผจญภัยตอนกลางคืน
หลังจากผ่านสถานการณ์กินข้าวมาได้
หลังจากหยุดกิน 2 -3 ครั้ง
ก็ได้เวลา เป็นการผจญภัย 5 ฐาน
เป็นการเน้นประสาทสัมผัส เช่น
การได้ยิน การดมกลิ่น การสังเกตและมองเห็น
รวมถึงการสัมผัส

ด้วยความที่อยู่ กอง 1 หมู่ 2 ผมเลยเดินเป็นคนแรกๆ
ทำไมมันมืดตึ๊ดตื๋ออย่างนี้
แต่ก็ยังพอที่จะมองเห็นทางครับ
เดินไปเรื่อยๆ เจอเชือกจับเชือก
(เฮ้อ อุตส่าห์หวังว่าจะรวมเนตรนารีด้วยแล้วเชียว)
เดินไปเดินมาเจอผ้าห้อยอยู่บนต้นไม้....
แล้วเราก็ลองดึงๆ มันดู ผูกติดกับต้นไม้นี่หว่า

แล้วเราก็เดินมาถึงผ้าขาวอีกผืนหนึ่งบนต้นไม้
แล้วมันก็ตกลงมา ตกใจจังเลย...วี๊ดว๊ายกรี๊ด..
แต๋วแตกกันเลยทีเดียวจะบ้ารึ?

เห็นอยู่แล้วยังจะตกใจกันอีก ยังไงเนี่ยลูกหมู่ผม
( คิดอะไรกับเขารึเปล่าเนี่ยตัวเอง ...ฟ้าผ่าละ)
และแล้วเราก็มาถึงจุดหมาย
นั่งรออย่างอดทน
เพราะต้องรอลูกเสือทั้งหมดมาถึง
แล้วเราก็ได้ฟังคำสั่งหนึ่งซึ่งซ้ำมากๆเดิมๆ เหมือนอัดเก็บไว้

“เอาะละฟังเดี๋ยวจะให้นั่ง
ขอให้อย่ามีแม้แต่เสียงพึมพำ
นั่งลง อย่าลืมว่าเรามาฝึกฝน
เพียงแค่เปลี่ยนจากเวลากลางวัน
เป็นเวลากลางคืนเท่านั้นเอง
จำกฎได้ไหมขอให้ปฎิบัติตามด้วย
อยู่ที่นี่ ใครทำผิดต้องมีโทษ
แต่ตอนนี้ คุณมีโทษสถานเดียวคือตบกบาล
ถ้าไม่อยากโดนก็ขอให้ทำตัวดีๆ”
แล้วเสียงนี้ก็ดังซ้ำๆ เกือบ 10 รอบ
ฟังจนจำได้ เอื่อมระอากันไปเลยทีเดียว

เมื่อเดินทางกลับก็มีการเฉลยบททดสอบ
ในฐานต่างๆจากนั้นก็ให้เรากินของว่าง
ก่อนจะปล่อยไปอาบน้ำ ปัญหาไม่มีเลยครับ
เออมีอย่างเดียวคือน้ำหมด...ผมยังแปรงฟันไม่สะอาดเลย
...หลายคนอาบไม่สะอาด และมีหลายคนไม่ได้อาบ....
ยังมีการเรียกรวมอีกครั้งเพื่อเช็คยอดแล้วสวดมนต์
ลงมากันช้ามาก จบพวกเราโดนอึ๊บ!รอ

จากนั้นก็นับจำนวนคนโดยจัดกันเองที่ละคน
คนแรกบอก 1 คนที่ 2 บอก 2 ไม่อยากจะบอกว่ามี
กระทิงเอ๊ย..กระเทยนับเสียงแปลกด้วย....
ต้องไปฟังเองมันเปลี่ยนอารมณ์มาก
แต่แล้วเรื่องง่ายๆแค่นี้ก็มีคนผิดจนกลายเป็นหนี้ซะ
โดนคนที่นับผิด คูณด้วย 100 กลายเป็นหนี้ที่เราต้องใช้
โดยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอึ๊บ! หรือเวียดนามระทม
(คือการนั่งยองๆแล้วกระโดดไปตามทิศทาง
ที่บอก 4 ครั้ง เท่ากับ 1 ชุด)

หลังจากการใช้หนี้ไปพอประมาณเราก็สวดมนต์ขึ้นนอน
ไม่รู้ครับผมหลับไม่รู้เรื่องตั้งแต่ 21.30 น.
ได้เห็นว่าครูฝึกไปเตือน 2 รอบเนื่องจากมีคนไม่ยอมนอน
อู๊ย!ไม่รู้สิครับตื่นมากลางดึกเย็นขามากๆ
ต้องเอาผ้าขนหนูมาพันขาเลยที่เดียว

เวลา 5.30 น.เสียงครูฝึกดังกังวานมาแต่ไกล
คล้ายๆ อาฆาตกันมาแต่ชาติปางก่อน
ได้แค่แปรงฟัน ล้างหน้า ไม่ได้อาบน้ำครับ
เพราะเขาไม่ให้อาบ เน่ากันทั้งกอง
แต่อย่างไรซะ เราก็ต้องปลดทุกข์หนักกันไปแต่เมื่อ
พบว่าในส้วมไม่มีน้ำ เราจะปฎิบัติภาระกิจนี้ไปไม่ได้
คงต้องปลดปล่อยแล้วเอานิ้วหนึ่งมุดทะเลเข้าไป
หมุนๆ เอาอีกมือหนึ่งถูเช็ดออก แล้วเอาไปถูกับกำแพง
ส่วนสิ่งที่ถูกปลดปล่อยออกมา ก็ต้องปล่อยเป็นอนุสาวรีย์
ปูชนียสถาน สืบสานตำนานต่อไป

เอ้า...ต่อๆ เริ่มด้วยการออกกำลังกายกินข้าวเช้า
แล้วก็ได้เวลาเดินทางไกล
(แยกกันอีกแล้วลูกเสือเนตรนารี อดเนียนอีกแล้ว
หวังตั้งแต่เมื่อวานแล้วเห็นมืดๆ 555+)
โดนลูกเสือจะเดินข้ามเขาไปตามทางเนินเขาต่างๆ
แล้วไต่เขาลงมา ด้วนจำนวนคนที่มากทำให้
ต้องเสียเวลารอเป็นเวลานาน
ส่วนเนตรนารีเดินอ้อมเขาแล้วไปโดดน้ำ
แล้วเราก็ผ่านมันมาได้อย่างทุลักทุเล
แม้จะมีคนโดนลงโทษด้วยโดนการถอดเสื้อแล้วนอนตากแดด
(นี่คือเหตุผลที่อยากให้เนตรนารีมาด้วย)

เราเดินๆและเดินต่อมาเรื่อยๆ
ใกล้ทะเลขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็มาถึงทะเลเย้ๆ
กินข้าวกันก่อน จากนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำแต่ก็ต้องมาประชุมการแสดง
โดยการแสดงถูกแบ่งเป็น 8 กลุ่ม โดยเอาลูกเสือ
กอง 1 รวมกับลูกเสือกอง 3 หมู่ 1-2
ลูกเสือกอง 2 รวมกับ ลูกเสือกอง 3 หมู่ 3-4
อย่างนี้ทุกชุดการแสดง เช่นเดียวกับเนตรนารี
โดยเนตรนารีจะเป็นกลุ่ม 1-4 ส่วนลูกเสือกลุ่ม 5-8
แล้วเมื่อไหร่จะได้เล่นน้ำกันล่ะเนี้ย
(ไม่ได้อยากเล่นหรอกครับจะดู
แต่เหมือนว่าสวยๆจะใส่สีดำกันนะ....
ไอ้ที่ใส่สีขาวก็ไม่ได้น่าดูเลย..เฮ้อเซ็ง)

ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึง ผมคิดว่าจะไม่ลงเล่นแล้ว
ก็โดนฉุดกระฉากลากถูไปกระทำชำเลา ในท้องทะเล…
ว่าแล้วไง ไหนๆก็เปียกแล้วเล่นให้คุ้ม ฮาๆ

ทำไมน้ำในทะเลมันอุ่นๆหนอ สีแปลกเหลืองๆ
ช่างมันเถอะ ... ตอนเล่นมันไม่ลำบากหรอกครับ
มันลำบากตอนกลับเนี่ยละ
รองเท้าก็ใส่ไม่ได้เท้าเปื้อนและเปียกมาก
เสื้อผ้าเปียกเค็ม รวมทั้งไข่ก็กลายเป็นไข่ดองเค็ม
แช่แข็งไปเรียบร้อยแล้ว
พื้นที่เดินกลับก็ขรุขระ ตะปุ่มตะปั่ม
เป็นกรรมของคนเดินกลับ ซี๊ด เล็บขบแตก.......

เมื่อกลับมาเราก็อาบน้ำกับอย่างบ้าคลั่ง
เพราะทุกคนต่างกลัวไข่ดองเค็ม
จะกลายเป็นไข่เน่ากับไปเสียก่อน
หลังจากการกินข้าวที่ต้องมุดใต้โต๊ะ
และการประชุมการแสดงอีกครั้ง

ในที่สุดก็ถึงเวลา งานรอบกองไฟ
เปิดงานด้วยคนป่าที่เดินไปเดินมา
พูดภาษางงๆ มาเชิญ ประธานจุดไฟแล้ว งานก็เริ่มขึ้น
(ว่าแต่จุดไฟด้านบนแล้วจะมีฟืนด้านล่างไว้ทำไม)
จากนั้นก็มีเพลงของครูฝึก กับท่าแปลกๆ
แถมยังตบท้ายด้วยว่าเบี่ยงเบน
(รึว่าจะเป็นกันทั้งกอง)
มีการเล่นมุขอย่างต่อเนื่องของครูฝึก
แต่รู้สึกว่าจะไม่ฮา เราช่วยเขาขำแล้ว
ครูเขาฝึกพยายามแล้วละครับ น่าสงสาร
จากนั้นก็มีการแสดงของแต่ละชุดการแสดง
เริ่มจากชุดการแสดงที่ 4 8 7 1 2 5 6 3 ตามลำดับ

กลุ่ม 4 แสดงเกี่ยวกับเด็กอนุบาลหนีเที่ยวจนมีปัญหา
แต่แม่ก็ตามไปประกันตัว แสดงถึงความรักแม่ลูก
(หน้าแม่กับลูกพอกันเลย เด็กอนุบาลเที่ยวผับ)

ส่วนชุดการแสดงที่ 8 แสดงเกี่ยวกับ
การเต้นตามเพลง ย้ำการเต้นตามเพลง...(มันน่าจะมีชื่ออื่นนะ)
ก็เต้นกันไปเรื่อยๆ ตามใจฉัน

ชุดการแสดงที่ 7 แสดงเกี่ยวกับการเดินแฟชั่นโชว์ ย้ำ!
ชุดทางแสดงที่ 7 เป็นลูกเสือ
(แสดงให้เห็นว่า เด็กสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต
เบี่ยงเบนกันมากแค่ไหน) เกย์โชว์ตัวอย่างภาคภูมิ
(บางคนมีโนขึ้นด้วย ไม่รู้ว่ายัดอะไรไปรึเปล่า
หรือว่าจะมีจริงๆ? )แล้วเดินไปเดินมา
แต่ที่ตลกก็คือครูฝึกลงมาร่วมด้วยพร้อมกับ
ชุดอันน่าอนาถ อนาถา(ทุเรศ)
เล่นเอาฮากันตรึมเลยทีเดียว

ชุดการแสดงที่ 1 เป็นการล้อเลียนครูฝึกเล่นซะ
คล้ายเลยทีเดียว(แต่เอามุขผมไปกินหมดเลย)
ด้วยการเล่นเนียนซะจนครูฝึกสะดุ้งกันเลย

ชุดการแสดงที่ 2 แสดงการเต้นประกอบเพลง
ด้วยมีสมาชิกเป็นหางเครื่องวงดนตรี
ที่ไปประกวดของ ร.ร. ซึ่งเป็นวงดนตรีลูกทุ่ง
โอ้ว ไกลเกินมองไม่เห็น คงต้องเปลี่ยนแว่นแล้วเรา

ชุดการแสดงที่ 5 แสดงเกี่ยวกับกลุ่มการฝึกฝน
ที่แตกต่างกันของ 2 กลุ่ม ซึ่งผู้ที่ปฎิบัติไม่ดีต้องถูกลงโทษ
รวมทั้งโฆษณาขั้นเล็กน้อย(ไม่ฮาากันเลย เซ็ง)

กลุ่มที่ 6 แสดงเกี่ยวกันชายคนหนึ่งโดนเกย์ 3 คน
รุมตุ๋ยมาแล้วมาแจ้งความกับเปาบุ้นจิ้น
จนท่านเปาตัดสินประหาร
แต่แล้วก็เกิดตกหลุมรักเกย์เข้า
เลยไม่เอาความความหันหน้ามาแต่งงานกันแทน
แสดงถึงความรักที่ไม่จำกัดนิยาม...
หรือว่า ร.ร. จะมีแต่เกย์กันหมด

และสุดท้ายชุดการแสดงที่ 3 แสดงเกี่ยวกับคนกลุ่มหนึ่งที่
ได้มาพบกันแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพที่สร้างได้ทุกที่
แล้วคืนแห่งความทรงจำก็จบลงภายใต้เสียง

บูมสวน และศรีงาม ปิดท้ายด้วยข้าวต้มยามดึก
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะและความทรงจำได้ถูกเก็บไว้
อย่างดีภายใต้สายตาที่หรี่ลงเรื่อยๆ คร๊อก.....ฟรี้....นอนดีกว่า

เวลา 6.00 น. เสียงเดิมเวลาใหม่ อารมณ์เก่า ง่วงจังเลย
อาบน้ำแบบรอคิว ว่าห้องน้ำเหม็นมากเนื่องจากที่ปัสสาวะ
ที่หมักหมมมานาน ช่างเถอะครับ เสียงตดมันตะโกน
บอกว่าเราจำเป็นต้องปลดปล่อยมันแล้วแต่ไม่.....
อีกนิดเดียวกลับไปปล่อยที่บ้าน

วันนี้ไม่มีการออกกำลังกายตอนเช้าหลังจากการกินข้าว
ก็มีการมอบอำนาจการบังคับบัญชาคืนให้แก่คณะครูอาจารย์
จากนั้นก็เป็นการไปเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ
ซึ่งเราได้ดูเต่าเป็นๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์อะไร อายุเท่าไหร่
ทำให้เราได้ความรู้ต่างๆเยอะแยะ

จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมชมเรือรบหลวงจักรีนฤเบศน์และเรือสิมิลัน
ซึ่งมีพี่ๆทหารเรือคอยให้ความรู้ด้านต่างๆ
แถมยังมีการขึ้นบันไดไปดูด้านบนของเรือ
และเมื่อผมเงยหน้าขึ้นไป... เท่านั้นละเต็มๆครับ
เนตรนารีที่เดินขึ้นไปก่อนเอ้อเห่อ
เล่นเอาผมก้มหน้าเดินตลอดทั้งวันเลยทีเดียว
ก็ลมมันแรงไม่ได้ตั้งใจมองเลยนะครับ
จนครูมาเตือนๆ ทำให้ผู้หญิงระวังตัวกันมากขึ้น
(ตากุ้งยิง เลือดกำเดาไหลกันเลยทีเดียว เฮ้ย น้ำลายไหลมาได้ไงเนี่ย...)

จากนั้นก็เดินทางกลับ เป็นครั้งแรกที่ ร.ร. ของเรา
เกือบจะกลับถึงร.ร.ก่อนกำหนด แต่มันก็แค่เกือบ...
ในเมื่อรถที่หลงทางขาไปนั้นได้พังในตอนขากลับเสียนี้
ทำให้เวลาล่วงเลยไปกลายเป็นตรงเวลา
ถึง ร.ร. 4โมงครึ่งพอดีซะอย่างนั้น

เย้!!เราตรงเวลากันแล้วกลับบ้านกันเสียที
แต่ค่ายนี้ได้สอนอะไรเราบางอย่างเกี่ยวกับเพื่อน

เพื่อนทำให้เราแปลงร่างได้เป็นอะไรมากมาย
แปลงร่างเป็นพ่อเมื่อเพื่อนลืมให้พ่อแท้ๆเซ็นต์ในใบตอบรับ
แปลงร่างเป็นเจ้าหนี้เมื่อมันยืมเงิน
แปลงร่างเศรษฐีเมื่อ เพื่อนเอากระเป๋าตังค์ไปฝากเวลาจะเล่นน้ำ
แปลงร่างเป็นฮีโร่เมื่อเอายาสีฟันมาคนเดียวในค่าย
เออ ใครเอาสบู่ผมไปใช้คนสุดท้ายเนี้ย...

1 ความคิดเห็น:

... กล่าวว่า...

อยากทราบว่าเวลาอาบน้ำจะมีห้องน้ำเเยกปะคะ

ป้ายกำกับ

2553 (1) กิจกรรม (7) กิจกรรมทางศูนย์ข่าว (9) กิจกรรมแนะแนว (16) กิจกรรมประจำเดือน (5) กีฬาสี (1) ขอความช่วยเหลือ (2) ข่าวในเครือสวนกุหลาบฯ (2) ข่าวในพระราชสำนัก (1) ข่าวโรงเรียน (24) คณะกรรมการนักเรียน (1) คริสต์มาส 2009 (1) เครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน (1) งานกิจกรรม (11) จากเหย้า (1) เชียร์และแปรอักษร (5) ทันโลก บันเทิง (2) บอลลีค (4) บันทึก(ไม่)ลับ ณ ค่ายลูกเสือ (2) ประกาศผล (1) ปิดเทอมใหม่ หัวใจชุ่มๆ (3) ผลการแข่งขัน (2) ผู้อำนวยการ (2) แม่โดมเกมส์ (1) ยินดีต้อนรับ (1) รางวัล (1) รายละเอียดศูนย์ข่าวทดลอง (1) ละ่อ่อน (1) วันเด็ก 2010 (1) วันละอ่อน (1) วันไหว้ครู (1) ศูนย์ข่าวทดลองฯ ทีมข่าวEnt’Conner (1) สมุดสีใหม่ 30 สี (3) สอวน. (1) สอวน.คณิต (1) สอวน.คอม (1) สอวน.เคมี (1) หนังสั้น (1) ให้ปากคำ (6) CURFEW (1) Easy Chinese (2) OSKR NEWS (8) service announcements (2) SKR_CUP (4) TALKING_PP (11) youtube (1)